เรียกว่าผิดไปแล้วแต่จะให้กลับไปแก้ไขก็ไม่ได้แล้วงานนี้สำหรับทางด้านของ โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่เดอะสเปเชี่ยลวันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมากล่าวยอมรับว่าวิธีที่ตนเองเลือกปฏิบัติกับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ดาวเตะระดับตำนานของเยอรมันเป็นวิธีที่ไม่ยุติธรรม และดูใจร้ายสำหรับนักเตะไปเหมือนกันจนกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นักเตะตัดสินใจ ย้ายไปฝากอนาคตช่วงปลายอาชีพกับทีมในเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ชไวนี่ ซึ่งก่อนหน้านี้เล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่ง บุนเดสลีกา เยอรมัน ทีมเดียวจนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำนานที่ดีที่สุดของเสือใต้ไปแล้ว ย้ายมาร่วมโรงละครแห่งความฝันในยุคของกุนซือหลุยส์ ฟาน กัล และแม้ว่าจะออกสตาร์ทใน พรีเมียร์ลีก กับเร้ดเดวิลล์ได้ไม่สวยหรูนัก แต่สถานการณ์ค้าแข้งในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดก็ไม่ได้ดูแย่อะไร
ทว่ามาในฤดูกาลนี้นักเตะต้องร่วมงานกับกุนซือคนใหม่ และสถานการณ์ก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อจู่ๆก็ถูกตัดออกจากทีมชุดใหญ่ และต้องลงไปซ้อมร่วมกับทีมสำรอง จนมีกระแสวิจารณ์การเลือกปฏิบัติของนายใหญ่ชาวโปรตุกีสตามออกมามากมาย
โดยเฉพาะกระแสโจมตีจากคนในวงการฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งมองว่าไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่นักเตะระดับท็อปของพวกเขาต้องถูก มูริญโญ่ ปฏิบัติแบบนี้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถานการณ์หลังจากนั้นจะไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ และเวลานี้ชไวนี่ก็เลือกอำลาปีศาจแดงไปลุยลีกแดนลุงแซมเรียบร้อยแล้ว แต่นายใหญ่เดอะสเปเชี่ยลวันก็ได้ออกมากล่าวยอมรับว่า ตนเองปฏิบัติต่อแข้งตำนานของเสือใต้ไม่ยุติธรรมจริงๆ
“ใช่ ผมรู้สึกเสียใจที่เลือกวิธีปฏิบัติต่อเขาไม่ถูกต้อง แต่ผมก็ได้บอกกับเขาก่อนเขาจะไปแล้ว ผมบอกเขาว่าผมเคยทำเรื่องที่ไม่ถูกต้องกับคุณ และในตอนนี้ผมก็คิดว่าผมได้ทำเรื่องที่ถูกต้องเพื่อตัวคุณแล้ว ใช่ เขาเป็นขอให้ผมปล่อยให้เขาย้ายทีม นั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจปฏิเสธได้เลย ผมรู้สึกเสียใจในช่วงแรกที่ร่วมงานกับเขา เขามีความเป็นมืออาชีพมาก”